วิธีเลือกซื้อรถจากเต็นท์รถมือสอง

วิธีเลือกซื้อรถจากเต็นท์รถมือสอง

“รถยนต์” เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับใช้ในการเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ ต้องใช้ในชีวิตประจำวันของทุกๆ ท่าน ซึ่งการมีรถยนต์เป็นของตนเอง จะทำให้การใช้ชีวิตของท่านสะดวก อิสระและสามารถวางแผนการเดินทางได้หลากหลาย แต่เนื่องจากราคารถมือหนึ่งนั้นสูง จึงทำให้ต้องเป็นหนี้ได้ แต่หากเราไม่ยึดติดหรือคิดมากจนเกินไป “รถมือสอง” ถือได้ว่าเป็นคำตอบและทางออกที่ดีสำหรับท่านที่ต้องการใช้รถครับ บทความนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “วิธีการเลือกซื้อจากเต็นท์รถมือสอง” มาฝากทุกๆ ท่านกันครับ

ทำความรู้จักกับ รถมือสอง

รถมือสอง เป็นรถที่ผ่านการเป็นเจ้าของมาแล้วมากว่า 1 ครั้ง รถมือสองมีจำหน่ายทั่วไปตาม เต๊นท์รถมือสอง บริษัทรถเช่า แฟรนไซด์ของตัวแทนจำหน่ายรถใหม่ ผู้ขายมักจะมีการรับประกันให้เพิ่มเติมในบางส่วน รวมไปถึงบริการซ่อมบำรุงและอะไหล่ สำหรับการขายรถโดยเจ้าของรถเอง เรียกว่า “รถบ้าน” ซึ่งต่อมาผู้ขายเต๊นท์รถมักจะใช้คำว่า “รถบ้าน” แทนรถที่ผ่านการใช้งานเพียงเจ้าของเดียว สามารถแบ่งประเภทรถมือสองง่ายๆ ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รถบ้าน กับ รถเต้นท์

รถบ้าน คือ รถที่เจ้าของบ้านใช้เอง ประกาศขายเอง เป็นการซื้อขายกันตรงระหว่างเจ้าของรถกับผู้ซื้อ การซื้อรถแบบนี้มีข้อดีคือ ได้ซื้อกับเจ้าของรถโดยตรง ผู้ซื้อสามารถถามประวัติของรถได้ หาพบเจ้าของรถเป็นคนดี มีความจริงใจ ผู้ซื้อก็จะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ส่วนข้อเสีย รถบ้านส่วนใหญ่จะขายตามสภาพ การซื้อ-ขายไม่มีการรับประกัน ผู้ซื้อต้องเป็นคนหาแหล่งเงินกู้ หรือ ดำเนินการทางด้านเอกสารต่างๆ เอง เป็นต้น

รถเต้นท์ คือ รถที่ไม่ใช่การซื้อ-ขาย โดยตรงกับเจ้าของ แต่เป็นซื้อ-ขาย ผ่านคนกลางหรือนายหน้า ซึ่งปัจจุบันการซื้อ-ขายในรูปแบบดัง

เลือกซื้อรถจากเต๊นท์รถมือสองอย่างไรให้ดีที่สุด

เช็กสภาพรถยนต์ แม้ว่ารถบางคันจะระบุเข็มไมล์มาแล้วว่าวิ่งไปไกลเท่าไหร่ แต่บางครั้งระยะทางก็ดูเหมือนไม่ค่อยสัมพันธ์กับปีของรถยนต์ที่ซื้อ เพราะฉะนั้นอย่าได้วางใจ เพราะอาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ที่มีการตั้งเข็มไมล์ใหม่เพื่อให้สามารถขายได้ราคาดีขึ้น เนื่องจากวิ่งระยะทางน้อย นอกจากเข็มไมล์แล้วควรตรวจสอบเบาะที่นั่ง และพวงมาลัยว่ามีสภาพการใช้งานมานานขนาดไหน เช็กขอบประตู และดอกยางว่าสึกหมดหรือยัง เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เล่านี้เป็นสัญญาณของรถที่ใช้งานมาเยอะพอสมควร

ตรวจสอบของห้องเครื่อง การเช็กสภาพห้องเครื่องเป็นการตรวจเช็กว่าภายในห้องเครื่องเริ่มมีสนิมจับ มีรอยบุ๋มลึก หรือร่องรอยเสียหายหรือไม่ โดยไม่ใช่เช็กแค่อุปกรณ์ที่ทำจากเหล็กเท่านั้น แต่ควรตรวจสอบท่อ และสายพานว่ามีรอยฉีกขาดหรือไม่ ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่มีน้ำรั่วซึมหรือเปล่า

ตรวจเช็กเครื่องยนต์ เป็นการตรวจเช็กสภาพของเครื่องยนต์ว่ายังมีการใช้งานที่ดีอยู่หรือเปล่า โดยการลองสตาร์ทเครื่องว่าติดง่ายหรือไม่ เครื่องยนต์เดินสะดวกไม่มีอาการสะดุดหรือเปล่า และลองฟังเสียงเครื่องยนต์ขณะเร่งด้วยความแรงสูงสุด และต่ำสุดว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ เช็กการรั่วของอุปกรณ์ภายในห้องเครื่อง โดยการตรวจเช็กนี้ควรมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ไปด้วย เพื่อที่จะเห็นรายละเอียดของการใช้งานรถยนต์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

เช็กประวัติรถ ก่อนที่เราจะเลือกซื้อรถสักคัน การหาข้อมูลของรถนทุกๆ ด้าน จะช่วยให้คุณไม่เสียเงินโดยใช่เหตุ เพราะรถบางรุ่นก็มีปัญหาเยอะเสียเหลือเกิน แต่พอไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนก็จะเกิดความเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ว่าเกิดจากการใช้งานของเจ้าของรถคนก่อน อย่างนี้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นการเช็กประวัติรถมือสองจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ

ทดลองขับ หลังจากที่ตรวจสอบสภาพรถต่างๆ อย่างครบถ้วนแล้ว ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ ควรทดลองขับรถเพื่อเช็กสภาพรถยนต์ครั้งสุดท้ายว่ามีอะไรที่ผิดปกติจากการขับหรือเปล่า เพื่อทดสอบระบบเบรก ระบบไฟ ศูนย์ถ่วงของรถ

และนี้คือ “วิธีการเลือกซื้อรถมือสอง” ที่เราได้หามาแนะกันในบทความนี้ หวังว่าจะช่วยทุกๆ เลือกซื้อรถยนต์มือสองที่เหมาะกับท่านได้นะครับ