สิ่งที่ต้องทำเมื่อว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง

สิ่งที่ต้องทำเมื่อว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง

การจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการสร้างบ้าน หรือสถานที่พักอาศัยเท่านั้น เมื่อมีการจ่ายเงินจะถือว่าสัญญานั้นเสร็จสมบูรณ์แล้ว และหาเกิดกรณีที่งานไม่เสร็จสมบูรณ์ตามที่สัญญาได้ระบุเอาไว้ เจ้าของบ้าน หรือเจ้าของโครงการนั้นสามารถนำสัญญาไปดำเนินคดีตามกฎหมายได้ โดยผู้ว่าจ้างจะต้องทำสัญญาก่อนจะเริ่มดำเนินงาน และจะต้องตรวจสอบสัญญาให้ถี่ถ้วนถึงปริมาณงานที่ทำ และจำนวนงวดงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่าย เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้เราจะมาบอกรายละเอียดสิ่งที่ผู้ว่าจ้างควรทำก่อนและหลังการเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาก่อสร้าง 

สิ่งที่คุณควรทำทั้งก่อนและหลังเซ็นสัญญากับผู้ รับเหมาก่อสร้าง 

1. ตรวจสอบสัญญาอย่างละเอียด  

การตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อนการเซ็นสัญญา และการจ่ายเงิน ในสัญญาควรมีการระบุที่ชัดเจนถึงการแจกแจงงานอย่างละเอียด และงวดงานกับการจ่ายเงินต้องสอดคล้องกันตามมูลค่า รวมไปถึงในสัญญาควรให้ความคุ้มครองถึงคุณภาพงานด้วย หากงานไม่ได้รับมาตรฐานก็ควรได้รับความคุ้มครองถึงการแก้ไขจากผู้รับเหมาด้วย สัญญาถึงจะเป็นธรรมแก่ผู้ว่าจ้าง  

2. ทำความเข้าใจกับ BOQ  

BOQ คือใบเสนอราคาที่ต้องมาควบคู่กับสัญญาที่วางเอาไว้ ซึ่งหากไม่มีใบดังกล่าวก็จะเป็นผลเสียต่อผู้ว่าจ้างอย่างเช่น หากในสัญญาระบุว่าต้องเทพื้นในส่วนหลังบ้าน แต่ผู้รับเหมาไม่ได้เทให้ หากคุณมีใบ BOQ มันก็จะสามารถอ้างสิทธิ์ในส่วนนี้ได้ และถ้าหากไม่มีก็จะเท่ากับว่าคุณไม่สิทธิ์เรียกร้องในส่วนนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเอกสารใบเสนอราคาหรือ BOQ นั่นเอง  

3. ขอแผนการทำงาน  

การขอแผนการทำงานนั้นเป็นสิ่งที่เจ้าของโครงการหรือผู้ว่าจ้างสามารถขอได้ และเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะได้ตรวจสอบระยะเวลาการทำงานของผู้รับเหมาก่อสร้าง ไปในตัวและจะได้ทราบความล้าช้าของงานว่าจะเสร็จตรงกับที่ระบุไว้ในสัญญาหรือไม่  

4. ตรวจสอบแผนงานให้สอดคล้องกับเงินแต่ละงวด  

เมื่อได้แผนการมาแล้ว สิ่งที่ผู้ว่าจ้างต้องทำก็คือการเตรียมเงินให้สอดคล้องกันในแต่ละงวด โดยคุณสามารถตรวจสอบปริมาณงานที่มีในแผนให้ตรงกับหน้างานจริง และตัดสินใจในการจ่ายเงินได้ ในขณะเดียวกันก็ตรวจสอบงานว่าทำสอดคล้องกับงานแต่ละงวดหรือไม่ เพื่อให้งานเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัดนั่นเอง  

นอกจากนี้ผู้ว่าจ้างจะต้องหมั่นตรวจสอบหน้างานบ่อย ๆ เพื่อดูว่างานที่กำลังดำเนินอยู่นั้นสอดคล้องกันกับแผนที่วางเอาไว้หรือไม่ และในบางครั้งหากพบว่างานไม่เป็นไปตามแผนผู้ว่าจ้างต้องมีการสั่งปรับปรุงหรือแก้ไขในจุดนั้น ๆ ก่อนที่จะจ่ายเงินในงวดถัดไป มิเช่นนั้นแล้วอาจทำให้บ้านหรือสถานที่พักอาศัยของคุณไม่เป็นไปตามที่วางไว้เลยก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งสำคัญสำหรับการว่าจ้างผู้รับเหมาก่อสร้าง นั่นเอง